facebook twitter Youtube podcast pr_chanthaburi
จ.จันทบุรีลงพื้นที่ตรวจสอบห้องเย็นในพื้นที่เพื่อป้องกันการกักตุนสินค้าประเภทสุกร

วันนี้ (21 ม.ค. 65) นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยปศุสัตว์จังหวัด พาณิชย์จังหวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ตรวจร้านจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละ และห้องเย็นในพื้นที่ เพื่อป้องกันการกักตุนเนื้อสุกร กำกับดูแลร้านค้าเนื้อสุกรชำแหละ ให้ติดป้ายราคาสินค้าอย่างชัดเจน  โดยคณะ ได้ลงพื้นที่จุดแรก คือ ที่ร้าน วีทีมีท ดีสทริบิวชั่น จำกัด สาขาจันทบุรี จ.จันทนิมิต อ.เมืองจันทบุรี  ซึ่งเป็นสถานที่จำหน่ายเนื้อสัตว์ จากการตรวจสอบ พบว่ามีเอกสารใบอนุญาตทำการค้า ใบอนุญาตให้นำและเคลื่อนย้ายซากสัตว์ และทำการค้าอย่างถูกต้องตามสุขอนามัย และมีการติดป้ายราคาอย่างชัดเจน ส่วนห้องแช่เย็น และห้องเย็น ที่เก็บสต๊อกสินค้า มีการแจ้งรายละเอียดการนำเข้าและออก ไม่พบปัญหาการกักตุนเนื้อหมูแต่อย่างใด  จากนั้นเจ้าหน้าที่ เดินทางต่อไปที่ บริษัท เบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม จำกัด สาขาจันทบุรี ตั้งอยู่ที่ 81/69-73 ถ.มหาราช ต.ตลาด อ.เมือง จ.จันทบุรี  ไม่พบการกักตุนเนื้อสุกรเกินกำหนด จาการตรวจสอบเอกสารถูกต้องตามข้อกำหนด ซึ่งบริษัทฯ ทำการจำหน่ายเนื้อสัตว์และสินค้าแปรรูปเนื้อสัตว์หลากชนิด โดยมีห้องแช่เย็นสินค้า เพื่อรอจำหน่ายที่สามารถจัดเก็บสินค้าทั้งหมด 6 ตัน ขณะนี้ มีเนื้อหมูประมาณ 1 ตัน ที่อยู่ระหว่างการกระจายสินค้าไปในพื้นที่รับผิดชอบ  หลังจากนั้นคณะได้เดินทางไปที่บริษัทเทพมณีโคลด์ สตอเรจ จันทบุรี เลขที่ 121 ม.11 ต.นายายอาม อ.นายายอาม  จ.จันทบุรี  ซึ่งเป็นห้องเย็นขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัด มีพื้นที่จัดเก็บสินค้าได้สูงถึง 1,500 ตัน ปัจจุบันมีเนื้อสุกร อยู่ 303 ตัน สัตว์ปีก 66 ตัน และสินค้าประมง 8 ตัน  โดยมีสินค้าของบริษัทรายใหญ่ นำสินค้าเข้ามาแช่แข็งประมาณ 267,000 กิโลกรัม และในจำนวนนี้ มีเนื้อสุกร จำนวน 110,000 กิโลกรัม เพื่อรอกระจายสินค้าไปยังสาขาร้านค้าในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดจันทบุรี อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพื่อให้เป็นไปตามประกาศของคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ที่กำหนดให้ผู้ครอบครองหรือห้องเย็นที่มีสต็อกตั้งแต่ 5,000 กิโลกรัมขึ้นไป แจ้งปริมาณ และราคาทุก 7 วัน ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม ที่ผ่านมา เพื่อดูแลปริมาณสุกรและสต็อกเนื้อสุกรที่มีอยู่ทั้งประเทศ ทั้งนี้หากพบการกระทำผิด ผู้ประกอบการรายใดไม่แจ้งปริมาณ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และปรับอีกวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะแจ้ง หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากพบเห็นว่ามีการกักตุนจะมีโทษตามมาตรา 30 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปีปรับ 140,000 บาทหรือทั้งจำและปรับ และหากประชาชนพบเห็นการกักตุนหรือจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดจันทบุรี หมายเลขโทรศัพท์ 039311357


image รูปภาพ
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar
แสดงความคิดเห็น
image
ความคิดเห็น